todaylifestylenews ข่าวสารที่นิยมอันดับ 1 ประเด็นเด่น กระแสร้อน ข่าวโซเชียล

Thisshop.com ข่าวสารที่นิยมอันดับ 1 ประเด็นเด่น กระแสร้อน ข่าวโซเชียล

Thisshop.com ช้อปปิ้งออนไลน์ ผ่อนของราคาเบาๆ การันตียอดขาย สินค้าของแท้ 100% เจ้าแรกของประเทศไทย

Thisshop.com ช้อปปิ้งออนไลน์ ผ่อนของราคาเบาๆ การันตียอดขาย สินค้าของแท้ 100% เจ้าแรกของประเทศไทย
Thisshop.com ช้อปปิ้งออนไลน์ ผ่อนของราคาเบาๆ การันตียอดขาย สินค้าของแท้ 100% เจ้าแรกของประเทศไทย

Breaking

วิธีแก้ตาพร่ามัวแบบง่ายๆทีคุณต้องรู้ไว้


 อาการตาพร่ามัว เกิดจากการที่เราใช้สายตากันอย่างหนัก โดยเฉพาะในวัยเรียน และวัยทำงาน ซึ่งบางครั้งอาจยังไม่ส่งผลกระทบทันที แต่จะเกิดอาการเกี่ยวกับด้วยตาอย่างตาพร่ามัวได้ในอนาคต อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการดูแลรักษาดวงตาให้อยู่กับเราไปนานๆ เราจึงจะมาขอแนะนำวิธีช่วยป้องกันอาการตาพร่ามัว

1.ประคบดวงตาด้วยน้ำเย็น
ในแต่ละวันเราใช้สายตากันมาก จึงควรใช้ผ้าขนหนูผืนเล็ก 2 ผืน แช่ในน้ำเย็น หยิบขึ้นมา 1 ผืน แล้วบิดพอหมาดและพับทบเป็นผืนยาว วางปิดดวงตาไว้ทั้งสองข้างนานประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าผ้าจะหายเย็น แล้วจึงใช้ผ้าอีกผืนหนึ่งประคบสลับกันไปมา จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา

2. สวมแว่น
สวมแว่นกันแดดตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แจ้ง หรือแว่นตาป้องกันขณะทำงานในบริเวณที่มีสารเคมีหรือฝุ่นละออง เช่น การทาสี หรือการซ่อมบ้าน เท่านี้ก็สามารถป้องกันตาพร่ามัวได้

3. กระพริบตาถี่ๆ
ในภาวะปกติคนเราจะกระพริบตานาทีละ 20-22 ครั้ง ทุกครั้งที่กระพริบตา เปลือกตาจะรีดน้ำตาให้มาฉาบผิวกระจกตา แต่ถ้าในขณะที่จ้องหรือเพ่งตาค้างไว้นานกว่าปกติ  จะทำให้เรากระพริบตาเพียง 8-10 ครั้ง น้ำตาก็จะระเหยออกไปมาก ทำให้ตาแห้งเพิ่มขึ้น จึงควรพักสายตาระยะสั้นๆ โดยการหลับตา หรือกระพริบตาอย่างช้าๆ หรือลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถประมาณ 2-3 นาที ในทุกครึ่งชั่วโมง

4. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
จำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เช่น กล้วย เพราะมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะทำงานร่วมกับโซเดียมเพื่อรักษาภาวะสมดุลน้ำในร่างกาย และช่วยให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้นอยู่เสมอ กล้วยจึงเป็นอาหารที่เราควรรับประทานเป็นประจำทุกวัน หนือจะเลือกรับประทานเป็นผักใบเขียว ผักสีม่วง หรือเนื้อปลา ซึ่งมีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 3

5. สังเกตุอาการของตนเอง
ข้อนี้ใช้สำหรับคนที่มีปัญหาตาพร่ามัวบ่อยๆ ควรจะสังเกตุอาการของตัวเอง ถ้าลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วไม่ดีขึ้น ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้ทราบปัญหา อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด เพราะอาจตามมาซึ่งผลเสียร้ายแรง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Your Ad Spot

Pages